จิตวิทยาความเกียจคร้านทางสังคม

จิตวิทยาความเกียจคร้านทางสังคม
จิตวิทยาความเกียจคร้านทางสังคม
Anonim

คนที่ทำงานในทีมแสดงค่าสัมประสิทธิ์การทำงานน้อยกว่าถ้าเขาทำงานด้วยตัวเอง และสิ่งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงาน

คุณเคยสังเกตไหมว่าเมื่อคุณทำงานกับใครบางคนในคู่คุณจะไม่ทำให้ดีที่สุด? ในช่วงเวลาที่คุณต้องรับมือกับงานที่แตกต่างด้วยตัวคุณเองคุณกำลังทำทุกสิ่งที่เป็นไปได้ในอำนาจของคุณและอีกมากมาย นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุพฤติกรรมนี้มีคำอธิบายของตัวเอง พฤติกรรมดังกล่าวถูกกำหนดไว้ในโลกวิทยาศาสตร์ว่าเป็นความเกียจคร้านทางสังคมหรือผลของ Ringelman

Ringelman คือใครและคือใคร มันง่าย Ringelman เป็นนักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศสซึ่งเมื่อประมาณร้อยปีก่อนได้ทำการทดลองทางจิตวิทยากับผู้คน วัตถุประสงค์และภารกิจที่ต้องพิสูจน์ว่าบุคคลที่ทำงานในทีมแสดงค่าสัมประสิทธิ์การทำงานน้อยกว่าถ้าเขาทำงานด้วยตัวเอง และสิ่งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงาน

หลายปีที่ผ่านมามีการทดลองที่น่าสนใจเพราะพวกเขานำกลุ่มคนที่เรียกว่าการทดลอง พวกเขาได้รับมอบหมายให้เพิ่มจำนวนสูงสุดที่สามารถทำได้ หลังจากนั้นผู้คนก็ถูกแบ่งออกเป็นคู่ ๆ และพวกเขาก็ต้องทำแบบเดียวกัน แต่เป็นคู่ ผลการทดลองทำให้นักวิทยาศาสตร์ตกใจ ยิ่งคนในกลุ่มมากเท่าไหร่น้ำหนักตัวที่น้อยลงของแต่ละคนก็สามารถยกขึ้นเปรียบเทียบกับผลที่ได้เมื่อทำงานด้วยตัวเอง ผลกระทบนี้เรียกว่าความเกียจคร้านทางสังคม

การอธิบายพฤติกรรมมนุษย์นั้นง่ายมาก เพราะว่าถ้าคน ๆ หนึ่งทำงานด้วยตัวเองเขาก็จะไม่มีใครไว้ใจเขาและเขาก็ทุ่มเทให้อย่างเต็มที่และพยายามทำงานให้สำเร็จ แต่ถ้าคนทำงานในทีมแล้วตรรกะของเขาแตกต่างจากตรรกะของงานอิสระ การทำงานเป็นทีมคน ๆ หนึ่งไว้วางใจคนอื่นเพราะความจริงที่ว่าบางคนจะทำอะไรบางอย่างเพื่อเขาเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในการที่จะทำให้เสร็จ และจะไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเขาเป็น phyllitic หรือไม่ปรับเปลี่ยน

เมื่อจำนวนผู้เข้าร่วมในกลุ่มเพิ่มขึ้นอัตราความสำเร็จของแต่ละคนก็ลดลง ดังนั้นทีมงานจากกลุ่มคนจำนวนมากขัดขวางการพัฒนาส่วนบุคคลของบุคคลและไม่ส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อผลโดยรวม นี่คือวิธีที่จิตใจมนุษย์ทำงาน บางครั้งเพื่อให้บรรลุผลสูงสุดหัวหน้าไม่ควรจัดกลุ่มพนักงานของพวกเขามิฉะนั้นพวกเขาผ่อนคลายในทางตรงกันข้าม นี่คือวิธีการที่ชีวิตมีการจัดการมีปรสิตจำนวนมากในทีมที่ไม่ได้ทำงาน แต่มีความสามารถที่จะแกล้งทำเป็นคล่องแคล่ว ในขณะที่บางคนทำงานหนักจริง ๆ แต่การทำงานของเขาไม่ได้สังเกตและมักไม่ได้ชื่นชม

ไม่มีเทคโนโลยีสังคมการฝึกอบรมหรือทัศนคติที่สามารถทำลายความคิดของมนุษย์ ผู้จัดการควรคำนึงถึงปัจจัยนี้ในการทำงานและสรุปว่าค่าสัมประสิทธิ์ความสามารถของพนักงานในกลุ่มลดลง